ตำนานเลือดล้างเลือด

ขบวนการเด็ดชีพ เสี่ยฮวด ได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงสายของวันที่ 5 เมษายน พุทธศักราช 2532 ซึ่งตรงกับวันไหว้บรรพบุรุษหรือที่รู้จักกันดีว่า “วันเซ็งเม้ง” เสี่ยฮวดพร้อมลูกน้องคนสนิทเดินทางมาด้วยรถกระบะโตโยต้า สีเปลือกมังคุด เลขทะเบียน บ-7870 อุบลราชธานี ตามถนนสายเศรษฐกิจ-บ้านบึง ช่วงกิโลเมตรที่ 4.5 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะถูกกลุ่มมือปืนใช้อาวุธสงครามทั้งปืนอาก้า และเอ็ม 16 กราดยิงถล่มเสียชีวิตหมดทั้งคัน

joker123

เมื่อสิ้นเสียงปืนและกลิ่นดินปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบภายในพื้นที่ พบปลอกกระสุนปืนอาก้า และปืนเอ็ม 16 จำนวนกว่า 50 นัด ตกในที่เกิดเหตุ และสุดอนาถเมื่อเจ้าหน้าที่พบเสี่ยฮวด หนึ่งในเจ้าพ่อภาคตะวันออก วัย 50 ปี ถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณลำตัว และใบหน้าหลายแห่ง นอนเสียชีวิตภายในที่นั่งหลังรถด้านซ้ายพร้อมกับ ร.ต.อ.อุทัย ปักษานนท์ อายุ 37 ปี รอง สว.สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง นายตำรวจที่มาคุ้มกัน และ
นายธงชัย หรือไฮ้ คนขับรถ

คดีดังกล่าวสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 10 คน โดยทั้งหมดมีการอ้างว่า นายปรีชา สถาวร หรือ “แดง สิงห์ป่าซุง” เป็นคนลงมือ แต่พยานหลักฐานไม่เพียงพอ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้กันไว้ในฐานะพยานก่อน เพื่อรอการสอบสวนหาความจริง รวมทั้งหาตัวผู้จ้างวานฆ่าต่อไป แต่ในระหว่างที่ความจริงยังไม่ปรากฏ ความสงสัยยังคงเป็นปริศนาอยู่นั้น ก็ได้มีกลุ่มคนร้ายบุกกราดยิงนายแดงด้วยอาวุธสงคราม เสียชีวิตคาที่เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2533

ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือศาลสั่งยกฟ้อง ท่ามกลางปมการตายปริศนาของเสี่ยฮวด และข้อสันนิษฐานเดิมๆ ของตำรวจในพื้นที่ “คนมีสี” ลงมือ แต่ก็ยังคงไม่มีการนำผู้ผิดมาลงโทษเช่นเคย และเรื่องราวต่งๆ ก็เลือนหายไปกับความทรงจำ แต่ความสงบในพื้นที่แห่งนี้ก็เปรียบเสมือนคลื่นน้ำทะเล ที่ยิ่งสงบนิ่งเท่าไหร่ก็หมายความว่าช่วงเวลาความนกลัวของท้องทะเลกำลังมาเยือน

เปรียบเหมือนกับสึนามิที่จะถาโถมโหมทำลายทุกสิ่งที่ขวางหน้าให้ราบเป็นหน้ากลอง ซึ่งครั้งนี้ได้เกิดกับคนใกล้ตัวของกำนันเป๊าะ อีกครั้งโดยครั้งนี้เกิดกับ นายกำพล คุปตวานิชเจริญ หรือ “เสี่ยเก๊า” มือขวาของกำนันเป๊าะผู้ยิ่งใหญ่ ก็ได้ถูกยิงถล่มดับอนาถตามไปอีกราย

ต่อมาได้มีข่าวของการฆ่าตัดตอนผู้รู้เห็นเหตุการณ์เพื่อไม่ให้สาวไปถึงไส้ของผู้บงการที่แท้จริง ทำให้นายสมบูรณ์ หรือ “เอี่ยม ม็อบ” ซิงเข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน โดยมี พล.ต.ท.ธนู หอมหวล ผบช.ก. (ในสมัยนั้น) ออกแถลงการณ์ ระบุถึงรายละเอียดในคดีนี้ว่า นายประมวล นาสวนชัย หรือ “ไอ้ตาแดง” และ จ.ส.ต.สมชาย อินสาหร่าย ร่วมลงมือสังหารเสี่ยเก๊าพร้อมกับนายสมบูรณ์ ทั้งยังระบุว่า จ.ส.ต.สมัย หรือเอก วงศ์ไชย เป็นผู้จ้างวาน เนื่องจากความขัดแย้งการจัดซื้อที่ดินบริเวณหาดทรายทอง ต.นาจอมเทียน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

ที่ดินที่ทำให้เกิดความบาดหมาง จนนำมาซึ่งจุดจบชีวิตเสี่ยเก๊านั้น เป็นที่ดินเปล่ามีเนื้อที่ 4 ไร่ 1 งาน ซึ่งมีกำนันเป๊าะ กำนันคนดังแห่งชลบุรีครอบครองต่อจากนายสุรชัย สุขนิรันดร์แต่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ซึ่งมีนายตำรวจระดับนายพลแอบหมายปองหวังได้มาครอบครองอยู่เช่นกัน การตายของสหายคนสนิทอย่างเสี่ยเก๊า ได้สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้แก่ผู้เป็นนายอย่างกำนันเป๊าะยิ่งนัก เพราะเป็นคนที่เขาไว้ใจให้ดูแลกิจการส่วนต่างๆ ของเขา เช่น เอเย่นต์สุราต่างประเทศ การค้าของเถื่อนหนีภาษี หัวคะแนนคนสำคัญในพื้นที่ และธุรกิจสีเำอื่นๆ อีกมากมาย

แต่ความโศกเศร้าและน้ำตาที่หลั่งรินให้สหายอัน เป็นที่รักผู้จากไปแล้วต้องหยุดไว้เพียงแค่นี้ เมื่อมีข่าวลือว่ารายการต่อไปของเมนูเลือดล้างเลือด คือ กำนันเป๊าะ นั่นเอง เมื่อข่าวลือเรื่องการสังหารกำนันเป๊าะเข้าถึงหูของเขา ทำให้ต้องมีการระแวดระวังความปลอดภัยกันมากขึ้น แต่ด้วยคนอย่างกำนันเป๊าะย่อมไม่ยอมให้ใครมาเคี้ยวได้ง่ายๆ เหมือนกับขนมที่กินในยามว่าง เนื่องจากเขามีหูตาที่มีมากดังสับปะรดที่มีทั้งในยุทธจักรนักเลง และในวงการข้าราชการ จึงทำให้เขาล่วงรู้ถึง “แผนสังหาร” ภัยร้ายที่จะมาถึงตัวเขาเสียก่อน

หลังจากที่ทราบแผนการสังหารที่จะเกิดขึ้นกับตนเองแล้วในวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2537 จึงงดการเดินทางไปร่วมพิธีเก็บศพไร้ญาติ ณ มูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถาน ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อย่างกะทันหัน โดยอ้างว่าติดภารกิจที่อื่น การเปลี่ยนแผนการเดินทางดังกล่าว ทำให้กลุ่มผู้หมายเอาชีวิตไม่สามารถเปลี่ยนแผนการปฏิบัติการได้ทัน จึงได้แต่ระงับแผนการทั้งหมดไว้ชั่วคราวก่อน

สล็อต

แม้ว่ากำนันเป๊าะจะรอดพ้นจากการทำร้ายหมายเอาชีวิตครั้งนี้ได้ แต่ก็ไม่หวังให้กลุ่มดังกล่วกลับมาก่อเหตุได้อีกครั้งจึงกระซิบบอกตำรวจให้บุกค้นสำนักงานบริษัท เอ.ซี ซีเคียวริตี้กราด กรุ๊ป จำกัด เลขที่ 225/65 หมู่ 6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นสำนักงานของ จ.ส.ต.สมัย ซึ่งมีชื่อตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องหาในคดีสังหารเลี่ยเก๊า ลูกน้องคนสนิทของเขาไปเมื่อไม่นานก่อนหน้านี้นี่เอง

ผลการตรวจค้นของตำรวจพบปืนโตกาเรฟ ออซซึ่
(ชนิดเดียวกับที่ใช้สังหารเสี่ยเก๊า) ซุกซ่อนอยู่ในโถส้วม ทั้งยังตรวจพบอาวุธปืนสงครามนานาชนิดอีกเช่น ปืนยิงรถถังแบบเอ็ม 72 ปืนอาก้า ระเบิดลูกเกลี้ยง-เอ็ม 67 ฯลฯ รวมแล้วกว่า 30 รายการ ซุกซ่อนอยู่ในถัง 200 ลิตร ซึ่งถูกฝังไว้ใต้ดินบริเวณสำนักงานบริษัท

นอกจากนี้ทางตำรวจสามารถเชื่อมโยงรูปคดีกับอาวุธที่พบเจอจนสามารถรวบตัวผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องได้อีก 2 ราย คือ ส.ต.อ.วิชัย สาวงศ์นาม อดีตตำรวจนครราชสีมา ที่ถูกไล่ออกจากราชการ แล้วหันเหชีวิตมาวงการมือปืนและเจ้าพ่อ และนายปราการ วงศ์ไชย น้องชายของจ.ส.ต.สมัย

เมื่อพบเจออาวุธทั้งหมด ทำให้กำนันเป๊าะถึงกับปาดเหงื่อด้วยความโล่งใจ เพราะเชื่อว่าอาวุธเหล่านี้หากไม่โดนจับได้ในวันนี้แล้วละก็พวกมันคงจะกลายเป็นเครื่องมือเด็ดวิญญาณของเขาออกจากร่างอย่างแน่นอน

สล็อต

สล็อตออนไลน์

ข่าวที่ออกมานั้นจะดูน่ากลัวมากเพียงใดก็ตาม แต่เมื่อเวลาผ่านไปได้ระยะหนึ่ง คดีดังกล่าวก็ค่อยหายเข้ากลีบเมฆลืมเลือนไปจากความทรงจำของผู้คนและตามสื่อต่างๆ แต่ในระหว่างนั้นเหตุการณ์แย่งชิงผลประโยชน์และความเป็นเจ้าพ่อในแผ่นดินบูรพายังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดนิ่ง เพราะตราบใดที่ผลประโยชน์ยังมีให้กินอยู่ แผ่นดินนี้ก็ยังคงนองไปด้วยเลือดอยู่เช่นเดิม

แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป 2 ปี เช้าวันที่อากาศค่อนข้างมืดครึ้ม ตามบรรยากาศของช่วงฤดูฝน ในวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ.2538 นายสุชาติ สุขพันธ์ถาวร หรือที่รู้จักกันดีว่า “กำนันย้ง” นายกสมาคมเพื่อเกษตรกรภาคตะวันออก ได้ขับรถยนต์คู่ใจเป็นรถอีชูซุกระบะแวน สีเลือดหมู หมายเลขทะเบียน ย-3486 ชลบรี เพื่อเดินทางไปดูการประมูลงานที่บ้านทับสูง หมู่ที่ 6 ต.บ่อทอง อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี

โดยการเดินทางครั้งนี้กำนันย้งได้เดินทางไปเพียง
ลำพัง โดยหวังว่าจะเป็นการพักผ่อน ขับรถกินลมชมวิวไปเรื่อยๆ ก่อนถูกคนร้ายดักถล่มด้วยอาวุธสงครามเอ็ม 16 และปืนลูกซอง จนสิ้นใจคารถกระบะคันดังกล่าว

หลังจากนั้นข่าวการขัดขากันของเจ้าพ่อในเมืองชลบุรียังคงมีอยู่บ้าง แต่ค่อยๆ เบาลง จนหลายคนคิดว่าบ้านป่าเมืองเถื่อนอย่างจังหวัดชลบุรีคงจะสงบลงเสียที พ่อแม่พี่น้องในพื้นที่คงได้ใช้ชีวิตตามปกติไม่ต้องเกรงกลัวอิทธิพลของใคร แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ในยุคหลังจากนั้นมีการสังหารเจ้าพ่อคนดังอีก 2 รายได้แก่ พ.ต.ทไชยันต์ วิชัยดิษฐ และ นายประยูร สิทธิโชติ หรือที่รู้จัก
กันดีในนามของ #กำนันยูร

คดีแรกส่วนของ พ.ต.ท.ไชยันต์ วิชัยดิษฐ รองผกก.5
บก.อก.ภาค 2 ตำรวจนักเลง คนสนิทของ “กำนันเป๊าะ” เจ้าพ่อบูรพาที่ถือว่าเป็นเบอร์หนึ่งในขณะนั้น

พ.ต.ทไชยันต์ ถูกสังหารโหดหลังจากเดินทางไปย่าน
สถานบันเทิงชายหาดบางแสน บริเวณถนนลงชายหาดบางแสนเพียงลำพัง เพื่อออกติดตามหาลูกชาย เมื่อคืนวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ.2545 แต่ยังไม่ทันได้พบตัวลูกชายกลับต้องดับแดดิ้นจมกองเลือดเสียก่อน

แต่การฆาตกรรมครั้งนี้สามารถจับตัวผู้กระทำความผิดได้คือ “นายโยธิน สิทธิโชติ” ลูกชายของ “ยุทรเป๋” หรือชื่อจริงคือ นายประยุทธ สิทริโชติ อดีตนักเลงดังอ่างศิลา และเป็นหลานของ “กำนันยูร” นายประยูร สิทธิโชติ อดีตกำนันอ่างศิลา โดยก่อเหตุร่วมกับนายณัฏฐวัฒน์ กระกิจ หรือ “ผู้ใหญ่อ้น” โดยคาดมาจากการล้างแค้นให้ผู้เป็นพ่อ “ยุทรเป๋” และความแค้ที่ธุรกิจของครอบครัวถูกพ.ต.ท.ไชยันต์ ขัดขาอยู่เรื่อยมา

จากนั้นไม่นานเมื่อฝ่ายหนึ่งถูกฆ่า อีกฝ่ายหนึ่งมีหรือจะลอยนวลและใช้ชีวิตได้ตามปกติสุข รายต่อมาที่ต้องสังเวยชีวิต เพื่อบัญชีเลือดล้างเลือดของบัลลังก์เจ้าพ่อบูรพา คือนายประยูร สิทธิโชติ หรือคนในพื้นที่รู้จักกันดีในนาม “กำนันยูร” ผู้ยิ่งใหญ่ในพื้นที่อีกคนหนึ่ง

กำนันยูรมีรายชื่อเป็นหนึ่งในเจ้าพ่อบูรพา มีธุรกิจมากมายทั้งใต้ดินและบนดิน ซึ่งถือป็นคู่แข่งรายสำคัญของกำนันเป๊าะเลยทีเดียว โดยคราวเคราะห์ของกำนันยูรได้มาถึงตัวอย่างคาดไม่ถึง เพราะปกติกำนันยูรจะเป็นคนที่ระวังตัวเองอยู่เสมอ แต่ด้วยความประมาทเพียงชั่วครั้งเท่านั้น ทำให้ชีวิตของกำนันยูรต้องจบลง

เนื่องจากกำนันยูรต้องไปร่วมงานแต่งของลูกสาวของคหบดีชื่อดังซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก การปฏิเสธก็กลัวว่าเป็นการเสียมารยาท แต่ก่อนเดินทางกำนันยูรได้เช็กสถานการณ์แล้วว่าคงไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น เพราะว่าภายในงานมีผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองมากมายมาร่วมงาน และที่สำคัญที่สุดคือ นายสนธยา คุณปลื้ม ซึ่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี ก็มาร่วมงานดังกล่าวด้วยเช่นกัน

แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ระหว่างที่มีเสียงเพลงและ
การแสดงความยินดีแก่คู่บ่าวสาว ก็มีเสียงปืนดังลั่นสนั่นงานทุกเสียงอื่นต้องพลันสงบเงียบลงเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้นสุดท้ายทุกสายตาก็จับจ้องไปที่ร่างของกำนันยูรที่นอนฟุบจมกองเลือด ซึ่งทันใดนั้นงานก็เกิดความวุ่นวาย แขกที่มาร่วมงานต่างพากันวิ่งกระจัดกระจาย ทิ้งไว้เพียงร่างอันไร้วิญญาณของกำนันยูรที่ไร้ซึ่งคนเหลียวแล และเหตุนี้เองทำให้แผ่นดินบูรพาต้องสิ้นเจ้าพ่อไปอีกหนึ่งคน คือ กำนันยูร

การตายของกำนันยูรนี้เอง กำลังจะเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เจ้าพ่อบูรพาอย่าง กำนันเป๊าะ หรือ สมชาย คุณปลื้มจะสิ้นซื่อจากตำนานผู้ยิ่งใหญ่ในดินแดนตะวันออกเช่นเดียวกัน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมุ่งเป้าไปที่ กำนันเป๊าะ และเพื่อนผู้ร่วมขบวนการอย่าง “ส.ท.เหี่ยว” หรือนายภาสกร หอมหวล อดีตสมาชิกสภาเทศบาลเมืองแสนสุข
ในข้อหา “จ้างวานฆ่า”
[NPC4]
งานนี้กำนันเป๊าะและพวกจะสามารถหนีพ้นจากบ่วงกรรมในครั้งนี้ได้หรือไม่ หรือจะต้องตกเป็นจำเลยในฐานะฆาตกร….
[NPC5]
“ถ้ายืนอยู่บนจุดที่สูง
มากขึ้นเท่าใด
ความน่าสะพรึงกลัว
ของภัยร้ายรอบตัว
ย่อมมีมากขึ้นเท่านั้น”

ขบวนการเด็ดชีพ เสี่ยฮวด ได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงสายของวันที่ 5 เมษายน พุทธศักราช 2532 ซึ่งตรงกับวันไหว้บรรพบุรุษหรือที่รู้จักกันดีว่า “วันเซ็งเม้ง” เสี่ยฮวดพร้อมลูกน้องคนสนิทเดินทางมาด้วยรถกระบะโตโยต้า สีเปลือกมังคุด เลขทะเบียน บ-7870 อุบลราชธานี ตามถนนสายเศรษฐกิจ-บ้านบึง ช่วงกิโลเมตรที่ 4.5 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะถูกกลุ่มมือปืนใช้อาวุธสงครามทั้งปืนอาก้า และเอ็ม 16 กราดยิงถล่มเสียชีวิตหมดทั้งคัน joker123 เมื่อสิ้นเสียงปืนและกลิ่นดินปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบภายในพื้นที่ พบปลอกกระสุนปืนอาก้า และปืนเอ็ม 16 จำนวนกว่า 50 นัด ตกในที่เกิดเหตุ และสุดอนาถเมื่อเจ้าหน้าที่พบเสี่ยฮวด หนึ่งในเจ้าพ่อภาคตะวันออก วัย 50 ปี ถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณลำตัว และใบหน้าหลายแห่ง นอนเสียชีวิตภายในที่นั่งหลังรถด้านซ้ายพร้อมกับ ร.ต.อ.อุทัย ปักษานนท์ อายุ 37 ปี รอง สว.สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง นายตำรวจที่มาคุ้มกัน และนายธงชัย หรือไฮ้ คนขับรถ คดีดังกล่าวสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด…

ขบวนการเด็ดชีพ เสี่ยฮวด ได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงสายของวันที่ 5 เมษายน พุทธศักราช 2532 ซึ่งตรงกับวันไหว้บรรพบุรุษหรือที่รู้จักกันดีว่า “วันเซ็งเม้ง” เสี่ยฮวดพร้อมลูกน้องคนสนิทเดินทางมาด้วยรถกระบะโตโยต้า สีเปลือกมังคุด เลขทะเบียน บ-7870 อุบลราชธานี ตามถนนสายเศรษฐกิจ-บ้านบึง ช่วงกิโลเมตรที่ 4.5 ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะถูกกลุ่มมือปืนใช้อาวุธสงครามทั้งปืนอาก้า และเอ็ม 16 กราดยิงถล่มเสียชีวิตหมดทั้งคัน joker123 เมื่อสิ้นเสียงปืนและกลิ่นดินปืน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบภายในพื้นที่ พบปลอกกระสุนปืนอาก้า และปืนเอ็ม 16 จำนวนกว่า 50 นัด ตกในที่เกิดเหตุ และสุดอนาถเมื่อเจ้าหน้าที่พบเสี่ยฮวด หนึ่งในเจ้าพ่อภาคตะวันออก วัย 50 ปี ถูกกระสุนปืนเข้าที่บริเวณลำตัว และใบหน้าหลายแห่ง นอนเสียชีวิตภายในที่นั่งหลังรถด้านซ้ายพร้อมกับ ร.ต.อ.อุทัย ปักษานนท์ อายุ 37 ปี รอง สว.สภ.ปลวกแดง จ.ระยอง นายตำรวจที่มาคุ้มกัน และนายธงชัย หรือไฮ้ คนขับรถ คดีดังกล่าวสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด…